Risk Reward Ratio ตัวชี้กำไร และขาดทุน ถ้าพูดถึงเรื่องความเสี่ยงกับหรือนักเทรด ต้องบอกเลยว่าเป็นของคู่กันแบบแยกกันไม่ได้หากคุณต้องการที่จะได้รับรางวัลหรือผลตอบแทนมากขึ้นในการลงทุนคุณก็ต้องเสี่ยงใช้เงินทุนที่เยอะขึ้น ยอมความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
🚩 เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่นักเทรดทุกคนจำเป็นต้องรู้ และจำให้ขึ้นใจเลยว่าสิ่งที่แน่นอนอย่างเดียวในการเทรดก็คือ ความไม่แน่นอน และความเสี่ยง ต่อให้เราจะมีแผนการเทรดที่สุดยอดขนาดไหน ความแม่นยำมากขนาดไหน ก็อาจจะมีการผิดแผน และต้องยอม Stoploss ออกเผื่อวางแผนใหม่
ถ้าเรารู้ว่าเราต้องเสียแล้วนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้จักกับ Risk Reward Ratio กันก่อน
Risk Reward Ratio (R:R) คืออะไร
Risk Reward Ratio (R:R) คือ สัดส่วนที่เปรียบเทียบความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงิน กับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนหรือกำไร
โดยเราจะเอาสัดส่วนทั้ง 2 อย่างนี้มาเทียบดูว่าคุ้มค่าที่เราจะเข้าไปเสี่ยงไหม เพราะถ้าเราเป็นเทรดเดอร์ ทุกๆ การเทรดที่เราเข้านั้นจำเป็นต้องมี Stop Loss และ Take Profit ที่ชัดเจนก่อนจะเข้าไป สิ่งนี้จะช่วยให้เราลงทุนกันอย่างมีระบบ
Risk Reward Ratio คำนวนยังไง
RRR = (ราคาที่ TP – ราคาจุดที่เข้า) / (ราคาจุดที่เข้า – ราคาที่ SL)
หรือ RRR คือ ระยะทำกำไร หารด้วย ระยะขาดทุน
ตัวอย่างที่ 1 สมมติ เราจะเข้าซื้อ BTC ที่ราคา 30,000 โดยเราตั้ง TP ที่เมื่อราคามาถึง 40,000 ส่วนเรายอมขาดทุน (SL) ที่ราคาลงมาถึง 20,000
ถ้าจากตัวอย่าง จะเห็นว่า ระยะทำกำไร หรือ (ราคาที่ TP – ราคาจุดที่เข้า) จะมีค่า (40,000 – 30,000) ซึ่งเท่ากับ 10,000
ส่วนระยะขาดทุน คือ (ราคาจุดที่เข้า – ราคาที่ SL) จะมีค่า (30,000 – 20,000) ซึ่งเท่ากับ 10,000 เช่นเดียวกัน
แบบนี้ RRR จึงเท่ากับ 10,000 / 10,000 หรือเท่ากับ 1 หรือมีค่า 1:1 นั่นเอง
ตัวอย่างที่ 2 สมมติ เราจะเข้าซื้อ BTC ที่ราคา 30,000 โดยเราตั้ง TP ที่เมื่อราคามาถึง 40,000 ส่วนเรายอมขาดทุน (SL) ที่ราคาลงมาถึง 10,000
ถ้าจากตัวอย่าง จะเห็นว่า ระยะทำกำไร หรือ (ราคาที่ TP – ราคาจุดที่เข้า) จะมีค่า (40,000 – 30,000) ซึ่งเท่ากับ 10,000
ส่วนระยะขาดทุน คือ (ราคาจุดที่เข้า – ราคาที่ SL) จะมีค่า (30,000 – 10,000) ซึ่งเท่ากับ 20,000
ทำให้ Risk Reward ในตัวอย่างนี้เท่ากับ 10,000 / 20,000 หรือ เท่ากับ 0.5 ซึ่งเท่ากับว่าไม่คุ้มเสี่ยงแน่นอน เพราะ ความเสี่ยงเงินที่เสียมากกว่าได้ คือ ลงทุนไม่คุ้มแน่นอน
ตัวอย่างที่ 3 สมมติ เราจะเข้าซื้อ BTC ที่ราคา 30,000 โดยเราตั้ง TP ที่เมื่อราคามาถึง 50,000 ส่วนเรายอมขาดทุน (SL) ที่ราคาลงมาถึง 20,000
ถ้าจากตัวอย่าง จะเห็นว่า ระยะทำกำไร หรือ (ราคาที่ TP – ราคาจุดที่เข้า) จะมีค่า (50,000 – 30,000) ซึ่งเท่ากับ 20,000
ส่วนระยะขาดทุน คือ (ราคาจุดที่เข้า – ราคาที่ SL) จะมีค่า (30,000 – 20,000) ซึ่งเท่ากับ 10,000
ทำให้ Risk Reward ในตัวอย่างนี้เท่ากับ 20,000 / 10,000 หรือ เท่ากับ 2 หรือมีค่า 2:1
แบบนี้ค่อยคุ้มเสี่ยงหน่อย คือ เงินที่ได้มากกว่าเงินที่เสีย
จากการคำนวนจะเห็นได้เลยว่า RRR ไม่ควรต่ำกว่า 1 หรือ 1:1 เพราะจะไม่คุ้มกัน ซึ่งส่วนมาก ระยะ RRR ที่คนนิยมตั้งกันคือ 2:1 ทุกๆ ครั้ง เพราะถ้าเราเสีย เราเสีย 1 แต่เวลาได้ มันได้ 2 มันก็คุ้มกว่า
Risk Reward ใช้ทำอะไร
อย่างที่บอกไป R:R มีไว้ดูความคุ้มคา ที่จะเสี่ยงลงไปในเทรดนั้นๆ ซึ่งโดยขั้นต่ำที่ควรจะเป็นคือ 1:1 นั้นก็คือ เสียและได้กำไรเท่ากัน คือ เท่าตัว
แต่บางครั้งเราอาจจะหาจุดเข้าที่สามารถทำให้เราทำระยะกำไรได้มากกว่า เช่น ที่เป็นที่นิยมคือ 2:1 หรือ เสียเราเสีย 1 แต่ถ้าเทรดชนะ เราได้ 2 ก็คือกำไรคุ้มกว่า
แต่บางครั้ง จุดที่เราเข้าเทรดมันทำกำไรได้แค่ 1:1 แต่เราไปคาดหวังเหมือนให้มันได้กำไร 1:10 นี้แหละ คือ จุดเริ่มต้นของการที่เรา “กำไรทิพย์” เพราะ ถ้าเราไม่รู้ว่าจุดที่เราเข้าไปเทรดเนี่ยมันจะทำกำไรได้เท่าไหร่
ยิ่งในช่วงตลาดคริปโตขาลงบางทีกราฟมันเป็นแค่การลงมา แล้ว Rebound ขึ้นไป ถ้าเรา Buy มาข้างล่าง มันถึง Supply ที่เราต้องเริ่มพิจารณาปิด Position แล้วไหม ? เพราะถ้ามันไม่ผ่านกราฟก็จะทำการ Continue ลงต่อในเทรนด์ขาลง (ขาขึ้นก็เช่นกัน ถ้าลงมาแล้วไม่หลุดกราฟก็จะขึ้นแล้วไปต่อ)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มือใหม่หลายคนพลาดมากๆ เพราะ เราจะคิดว่าจุดเข้าของเราดีแล้ว กราฟยังไปต่อได้อีก แต่ทำไม๊ กราฟมันดันลงมาเท่าทุน เท่าทุนไม่พอมันยังลงกลับไปต่ำกว่าเดิมอีก แล้วเราก็กลายเป็นคนติดดอย หรือไม่ก็พอร์ตแตกไปเลย ใครที่รู้ตัวว่ากำลังพลาดเรื่องนี้อยู่ ตั้งสติ แล้วรีบแก้ไขนะครับ
การเทรดมันเหมือนมาราธอนครับไม่ต้องรีบรวยครับ ค่อยๆสะสมเงินของเรา อย่าไปกาวมากกว่าเราต้องได้ 5 เท่า 10 เท่า มันมีโอกาสไปถึงครับ แต่ระหว่างทางเราต้อง Stand by และยอมรับความผันผวนที่เกิดขึ้นให้ได้ โดยเฉพาะในตลาดคริปโตที่สามารถขึ้น 100% และลง 70% ได้ภายในไม่กี่วัน
วิธีคำนวน Size ของ Position ที่จะเปิด
นอกเหนือจากเรื่อง RR แล้ว สิ่งที่จะกระทบความคุ้ม ก็คือ ขนาดของ Position ที่เราจะออก
หลายๆ คนไม่ได้คิดเรื่องนี้ จนทำให้พลาด เพราะเกิดจากการออกขนาดเทรดไม่เหมาะสมกับขนาดพอร์ต เพราะงั้นควรจะต้องคำนวนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เราจะเสี่ยงในการเทรดครั้งนี้
หลักการคำนวนความเสี่ยง
Balance เงินในพอร์ต
ยกตัวอย่าง เรามี 100$ เราต้องรู้ก่อนว่ายอมรับความเสี่ยงได้ที่ครั้งละกี่ % ถ้าเรายอมรับได้ 5% ต่อครั้งจะเท่ากับเราเสียครั้งละ 5$ ถ้าเงินในพอร์ตจะหมดไปเราต้องเทรดเสียทั้งหมด 20 ครั้ง
ใช้ตารางคำนวนความเสี่ยง