16 Price Pattern และ Chart Patterm ที่พบบ่อยในการเทรด [อัปเดต 2022]

หากคุณเคยได้ยินชื่อ Head & Shoulder หรือ สามเหลี่ยม หรือ Double Top ก็คงไม่แปลก เพราะนี่คือหนึ่งในเทคนิควิเคราะห์กราฟ ที่นักเทรดสายเทคนิคอลใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ Price Pattern หรือ Chart Pattern

Chart Pattern หรือ Price Pattern คืออะไร?

Chart Pattern  คือ พฤติกรรมแท่งเทียนที่มีการเคลื่อนที่สะสมจนออกมาเป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ โดยนักเทรดจะต้องสังเกตการเกิดขึ้นซ้ำของรูปแบบต่างๆ โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะบอกถึงทิศทางความเป็นไปได้ที่ราคาจะเคลื่อนที่ไปต่อ หรือ บางคนจะเรียกว่า Price Pattern ก็ได้

รูปแบบการเคลื่อนที่ที่มีการสะสมพลัง มีโอกาสจะขึ้นต่อ แต่ขึ้นอยู่กับ Trend ที่เคลื่อนที่มาใน TF ที่เราเข้าเทรดด้วย ไม่ได้จำเป็นว่าเกิด Pattern นี้แล้วกราฟจะต้องขึ้นเสมอ เพราะสามารถ Break out และลงต่อได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นมาประกอบด้วย

เป็น Pattern 3 เหลี่ยมที่เห็นได้บ่อยถ้าเกิดใน Trend ที่เป็นขาขึ้นมีโอกาสที่จะ Break Out แล้ววิ่งไปต่อให้หาจังหวะเข้า Buy แต่ต้องอย่าลืมว่ามีโอกาสที่กราฟจะลงมาด้วยเหมือนกันให้มี Stop Loss ไว้เสมอถ้าหลุม 3 เหลี่ยม

เป็น Pattern ที่มีการเคลื่อนที่แล้วไม่ทำ High ที่สูงกว่าเดิม และทำ Low ที่ต่ำกว่าเดิมมาเรื่อยๆ แต่ให้สังเกตว่าถ้าเกิดใน Trend ขาขึ้นตรงนี้อาจจะเป็นแค่การพักตัวลงเพื่อขึ้นต่อ ให้หาจังหวะ Buy และเตรียม Stop Loss ไว้ถ้าผิดทาง

มีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับ Bullish Wedge แต่จะเคลื่อนที่แบบไม่ได้บีบเข้าหากันแต่จะเคลื่อนที่แบบขนาดเท่าๆกัน ถ้าเกิดใน Trend ที่เป็นขาขึ้นมีโอกาสที่จะพักตัวเพื่อขึ้นต่อให้หาจังหวะเข้า Buy พร้อมกับวาง Stop Loss ไว้ถ้าผิดทาง

เป็น Pattern ที่มีการสะสมเป็น 3 เหลี่ยมที่สมมาตรบีบเข้าหากัน 3 เหลี่ยมรูปแบบนี้ คือ การสะสมพลังที่รอการเลือกทางถ้า Break out ขึ้นเราสามารถตามได้ แต่ถ้า Break out ลงก็สามารถตามได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Trend หลักที่เกิดขึ้น และปัจจัยอื่นในการตัดสินใจด้วย

รูปแบบการเคลื่อนที่ที่มีการสะสมพลัง มีโอกาสจะลงต่อ แต่ขึ้นอยู่กับ Trend ที่เคลื่อนที่มาใน TF ที่เราเข้าเทรดด้วย ไม่ได้จำเป็นว่าเกิด Pattern นี้แล้วกราฟจะต้องลงเสมอ เพราะสามารถ Break out และขึ้นต่อได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นมาประกอบด้วย

เป็นรูปแบบ 3 เหลี่ยม ที่ไม่ทำ High ใหม่มีการบีบเข้ามาและไม่ทำ Low ต่ำกว่าเดิม ถ้าเกิดใน Trend ขาลงมีโอกาสที่กราฟจะ Break out แล้วลงต่อ ให้หาจังหวะเข้า Sell พร้อมกับมองหา Stop Loss ไว้ป้องกันความเสียหายด้วยสำหรับสายเทรด

เป็นรูปแบบที่กราฟมีการบีบขึ้นเข้าหากัน ถ้าสังเกตให้ดี Pattern นี้มักจะเกิดเป็น Bearish Divergence ด้วย เป็น Pattern ที่มักจะมีการ Break out แล้วลงต่อ แต่ก็สามารถ Break out แล้วขึ้นได้ให้หาจังหวะ Sell พร้อมกับตั้ง Stop Loss ให้ดี

เป็น Pattern ที่มีการสะสมออกข้างแบบมีการยก High และ Low ที่สูงขึ้น แต่ถ้าเกิดใน Trend ขาลงมีโอกาสที่กราฟจะ Break Out แล้วลงต่อ สังเกตให้ดี Pattern นี้ก็มักจะเกิด Bearish Divergence เหมือนกับ Pattern Bearish Wedge

Pattern 3 เหลี่ยมนี้ อย่างที่บอกไปใน Bullish Symmetrical Triangle ว่ามีโอกาสที่จะเกิดได้ทั้ง Break Out ขึ้นและลง ขึ้นอยู่กับ Trend ใหญ่ที่คุมอยู่ ให้สังเกตหาจังหวะเล่นให้ดีว่า Time Frame ที่เราจะเข้าเทรดนั้นมี Trend รูปแบบไหนเกิดขึ้นอยู่แล้วหาจังหวะเข้าเทรด

คือ การเทรดใน Pattern กลับตัว ใช้หาจังหวะในการเข้า Buy แต่นอกจาก Pattern แล้วยังต้องสังเกตเรื่องของ Trend และ Candle Stick ในการหาจังหวะเข้าเทรดเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะถูกทาง
และมี Win Rate ที่ดีขึ้น

เป็น Pattern กลับตัวที่เมื่อมีการลงมาและไม่ทำ Low ใหม่ และมีการวิ่งกลับขึ้นไปได้มีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้น ถ้าสามารถทะลุ High เดิมที่ทำเอาไว้ ในหาจังหวะเข้า Buy แต่อย่าลืมดู Trend และแท่งเทียนที่พุ่งออกจาก High ที่ทำเอาไว้

เป็น Pattern ที่คล้ายกับ Double Bottom ต่างกันตรงที่มีการลงมาทำ Low เดิมไม่หลุด 3 รอบ เหมือนเป็นการสะสมก่อนที่จะเตรียมพุ่งขึ้น แต่อาจจะมีความอ่อนแอกว่า Double Bottom ที่สำคัญเหมือนเดิมเรื่อง Trend และ แท่งเทียนที่มีการพุ่งออกจาก High เดิม หรือเมื่อลงมาถึง Low มีแรงซื้อเข้ามาแบบแข็งแรงจะช่วยเป็นสัญญาณคอนเฟริมได้อีกด้วย

สังเกตให้ดี Pattern นี้ถ้ามองตามทฤษฏี Dow’s Theory ก็คือ กราฟไม่ทำ Low ใหม่แล้วมีการยก Low แต่ยังไม่ยก High จึงมีโอกาสที่จะกลับตัว พร้อมกับขึ้นต่อไปถ้าเกิดในแนวรับสำคัญหรือโซนสำคัญเป็นไปได้สูงเลยว่ามีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นต่อ

เป็น Pattern ที่มีการลงมาแบบบีบตัวเข้าหากันไม่มีการทำ High ที่สูงขึ้น และทำ Low ต่ำลงมาเรื่อยๆ แต่ถ้าสังเกตให้ดี Pattern นี้ RSI จะมี Bullish Divergence เกิดขึ้น ถ้าเกิดในแนวรับสำคัญมีโอกาสที่จะกลับตัวสูงขึ้นด้วย

เป็น Pattern กลับตัวสังเกตง่ายๆ คือจะไม่มีการทำ High ใหม่ และเมื่อลงมาหลุด Low เดิมเป็นสัญญาณการคอนเฟริมว่าจะมีการกลับตัวเกิดขึ้นให้เราเฝ้าระวัง หรือหาจังหวะ Sell ในการเข้าเทรด

เป็น Pattern ที่ไม่สามารถทำ High ใหม่ได้ ถ้าสังเกตให้ดีเวลาขึ้นมาถึงแนวรับสำคัญ หรือมีการขึ้นมา Test High ที่เคยทำไว้และไม่มีแรงซื้อเข้ามาจะไม่สามารถทะลุและไปต่อได้ Pattern นี้จึงมีโอกาสที่จะกลับตัวลงต่อ เพราะมีแรงขายเข้ามาในช่วงราคานี้ให้เฝ้าระวัง หรือหาจังหวะเข้า Sell

Pattern นี้มีความคล้ายกับ Double Top ต่างกันตรงที่ขึ้นมา Test High ถึง 3 ครั้ง แต่จะมีควาเป็นไปได้ที่จะขึ้นสูงกว่า เพราะมีการมา Test ไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถ้าขึ้นมาแล้วจะทะลุไปได้ มีโอกาสที่จะลงต่ออยู่ ให้หาจังหวะในการเข้าเทรด Sell พร้อมกับมองหา Stop Loss ให้ดี

เป็น Pattern ที่เริ่มสังเกตได้จากการที่กราฟไม่สามารถทำ High ใหม่ได้ ให้เราเฝ้าระวังว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงต่อ ให้หาจังหวะเข้า Sell พร้อมกับตั้ง Stop Loss ไว้ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นถ้าหากผิดทาง

Pattern นี้กราฟจะบีบเข้าหากันพร้อมกับถ้าสังเกตใน RSI จะเกิดเป็นสัญญาณ Bearish Divergence

ถ้าเกิดในโซนที่เป็นแนวรับสำคัญมีโอกาสสูงมากที่กราฟจะลงต่อ ให้หาจังหวะเข้า Sell พร้อมกับมองหาจุด Stop Loss ไว้

ทั้งหมดนี้เป็น Pattern ส่วนหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้น แต่ถ้าจะสังเกตกันแบบง่ายๆเลยทุกอย่างเกิดขึ้นจากแท่งเทียนและการเคลื่อนที่ตามทฤษฏี Dow’s Theory

เช่น ถ้าเป็น Trend ขึ้น กราฟต้องยก Low และ High ไปเรื่อยๆ ถ้ามีการเสียเทรนด์เมื่อไหร่ให้เฝ้าระหวังไว้ให้ดี แต่ถ้าเป็น Trend ขาลง กราฟมีการยก Low ขึ้นก่อน เป็นจุดสังเกตแล้วว่าหรืออาจจะมีการกลับตัว ยิ่งถ้าสามารถทำ High ใหม่ได้ให้เราเช็ค Trend ให้ดีเพื่อวางแผนในการเทรด

📌 ดูวิดีโอสอนเทคนิคเทรดจากโค้ช Mixer ฟรีได้ที่

https://bit.ly/youtube_tradermixer

📌 อ่านรีวิวผลลัพธ์จริงจากนักเรียน Mixer

https://bit.ly/review_tradermixer

📌 ดูรายละเอียดคอร์ส และติดตามข้อมูลข่าวสารที่เว็บไซต์

https://bit.ly/website_tradermixer

#อย่าแค่พอtradeเป็น #แต่จงtradeเป็นอาชีพให้ได้