Elliott Wave คืออะไร? ดูกราฟยังไง? เทรดคริปโตด้วย Elliott Wave อย่างง่าย

Elliott Wave คืออะไร? นับคลื่นยังไง ใช้กับคริปโตได้มั้ย

หนึ่งในทฤษฎีที่ดังมากๆ ในวงการเทรด และถูกใช้ในการประกอบการวิเคราะห์ที่ค่อนข้างแพร่หลายในตลาด นั่นก็คือ Elliott Wave หรือ คลื่นของ Elliott

Elliott Wave คือ หนึ่งในทฤษฎีและเครื่องมือในการวิเคราะห์แบบเทคนิคอล ที่ทำให้เราอ่านกราฟและแนวโน้มของราคาที่จะดำเนินต่อไป

เดี๋ยวเรามาดูกันว่า ทฤษฎีนี้คืออะไร และช่วยในการวิเคราะห์ได้อย่างไรบ้าง

Elliott Wave คืออะไร ? ใช้ได้จริงไหม?

Elliott Wave คือ ทฤษฏีที่ใช้เพื่อวิเคราะห์ลักษณะราคาบนกรอบเวลาต่างๆ เพื่อใช้คาดการณ์อนาคต หรือดูจิตวิทยาของนักลงทุนด้วย ใช้กันค่อนข้างแพร่พลายในการเทรดคริปโต หรือ แม้กระทั่งตลาดอื่นๆ ด้วย

Elliott Wave ถูกคิดค้นขึ้น โดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งเป็นนักบัญชีชาวอเมริกัน ซึ่งเค้าได้ศีกษาตลาดหุ้นอเมริกาจนเห็นถึงวงจรของตลาด จนเกิดมาเป็นหลักการคร่าวๆ ว่า

“วงจรของตลาดจะเกิดขึ้นซ้ำๆ กัน เนื่องจากอารมณ์ของนักลงทุน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะแสดงออกมาในรูปของกราฟราคา”

แต่ถ้าจริง ๆ แล้วมันดิ้นได้ หมายความว่า กฎของ Elliott Wave จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามสภาพตลาด ณ ปัจจุบัน

ประเภทของคลื่น และ วิธีการนับคลื่น Elliott Wave

Elliott Wave จะประกอบด้วยคลื่น 2 ประเภท หรือจะมองเป็น 2 ฝั่งก็ได้ ซึ่งได้แก่

Impulse = คลื่นยืด และ Correction = พักตัว

Impulse (คลื่นยืด)

Impulse คือ คลื่นที่เคลื่อนไหวไปตามเทรนด์ใหญ่ เช่น ถ้าเป็นเทรนด์ขึ้น คลื่น Impulse จะยืดยาวไปทางขาขึ้น หรือ ถ้าเป็นเทรนด์ลง คลื่น Impulse จะยืดยาวลงไปทางขาลง

โดย Impulse จะแบ่งออกเป็น 5 คลื่นย่อยๆ โดยจะนับเป็น คลื่น 1,2,3,4,5

Correction (พักตัว)

Correction คือ คลื่นที่เคลื่อนไหวสวนทางกับเทรนด์ เช่น ถ้าเป็นเทรนด์ขึ้น คลื่น Correction จะเป็นคลื่นที่ย่อลง สวนกับทิศทางขาขึ้น หรือ ถ้าเป็นเทรนด์ลง คลื่น Correction จะเป็นคลื่นที่ย่อขึ้น สวนกับทิศทางขาลง

นักลงทุนบางคนจะตีความมองว่าเป็น คลื่น Correction คือ ฝั่งที่คนเริ่มทำกำไร มันเลยมีการลงมาพักตัว ก่อนที่จะเตรียมขึ้นต่อตามเทรนด์

ยกตัวอย่าง ในเทรนด์ขาขึ้น มันจะมีคลื่น Impulse ก่อน แล้วก็จะมีคลื่น Correction ถ้ามีคนเข้าซื้ออีกหลังเกิดคลื่น Correction ราคามันก็จะขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นคลื่น Impulse อีกรอบหนึ่ง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการเทขายหมดเลย เราจะเห็นคลื่น Correction ก็จะลงลึกมาก ๆ จนบางครั้งกลายเป็นเทรนด์ขาลงไปเลย

โดยคลื่น Correction จะนับคลื่นเป็น a,b,c

3 กฎเหล็ก Elliott Wave ที่ต้องรู้ก่อนเข้าเทรดคริปโต

กฏข้อที่ 1 : คลื่นที่ 2 จะไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้น

ปกติคลื่นที่ 2 จะอยู่สูงกว่าจุดเริ่มต้น แต่ถ้าราคามันร่วงต่ำกว่าจุดเริ่มต้น ถือว่าผิดกฏของอีเลียดเวฟ หรือถ้าพูดในมุมมองจิตวิทยา คือ ราคามีคนซื้ออยู่ และอยู่ดีๆ มีคนขายหมดเลย แสดงว่าเหรียญไม่น่าสนใจ ห้ามเข้าเทรด

กฏข้อ 2 : คลื่นที่ 3 จะต้องไม่สั้นที่สุด

ถ้ามันสั้นกว่า Wave อื่นๆ ถือว่าผิดกฏ หรือ มันอาจจะไม่ใช่ Wave 3 จริงๆ ก็ได้ (ในขณะเดียวกัน Wave อื่นๆ สั้นได้ แต่ Wave ต้องไม่สั้นที่สุด)

กฏข้อที่ 3 : คลื่นที่ 4 จะต้องไม่ Overlap คลื่น 1

เพราะถือว่า มีแรงขายเข้ามาแล้ว อาจจะทำให้ Wave 5 ไม่สูงกว่า Wave 3 แล้ว หรือ เรียกว่า Wave 5 Failed
คิดง่ายๆ คือ เพราะราคาเทขายมากกว่าปกติ ทำให้กว่าราคาจะขึ้นไปได้มันต้องใช้พลังงานเยอะ ทำให้โอกาสที่ Wave 5 จะชนะ Wave 3 มันจะมีโอกาสน้อย

การใช้ทฤษฎี Elliott Wave สามารถช่วยให้เราอ่านอารมณ์ของนักลงทุนได้

มีคนหลายคนถามผมเข้ามาว่า โค้ช ๆ Elliott Wave ใช้เทรดในตลาดคริปโต (Cryptocurrency) ได้ผลมากน้อยแค่ไหน ?

จากการที่ผมได้นำมาเทรดจริง ๆ บอกเลยว่า “ใช้ได้!” ซึ่งในมุมมองส่วนตัวของผมการเทรดด้วย Elliott Wave คือ จิตวิทยาของนักลงทุน เป็นการเทรดอารมณ์นักลงทุนในตลาดปัจจุบัน

ทฤษฎี Elliott Wave เราจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 3 กลุ่ม

  1. นักลงทุนรายใหญ่ คือ ผู้ที่มีเม็ดเงินมหาศาล หลักพันล้าน-หมื่นล้านดอลลาร์ สะสมของ ในช่วงที่ยัง “ไม่มีข่าว” แอบซื้อแบบเงียบ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ทำให้กราฟมันพุ่งขึ้น
  2. คนกลุ่มน้อยที่เห็นโอกาส หรือ นักเกร็งกำไรระยะสั้น เข้าซื้อในช่วงคลื่นที่ 2
  3. นักลงทุนรายย่อยแบบเรา ๆ จะเข้าซื้อในช่วงที่มีข่าวดี (เรียกเม่าได้ไหม) หรือช่วงที่เหรียญนั้นมีกระแส

ซึ่งก็จะอธิบายพฤติกรรมนักลงทุนได้ดังภาพอินโฟกราฟิกเลยนะฮะ สรุปง่าย ๆ ว่า เราสามารถใช้ Elliott Wave เทรดได้นะครับ แต่ “ไม่เสมอไป” เราจะต้องจะใช้ Demand/Supply Zone ด้วย เราจะได้รู้ว่าโซนไหนต้องการซื้อ และโซนไหนต้องการขาย หรือแม้กระทั่ง Price Action ต่าง ๆ ที่เอาไว้ดูว่าในตลาดมีแรงซื้อแล้วนะ หรือมีแรงขายแล้ว ให้เรารู้ว่าเราควรที่จะต้องทำอะไร เราเทรดคลื่นไหน เราก็จะต้องรู้ว่าควรเก็บกำไรที่ตรงไหน ที่สำคัญ อย่าลืม Money Management!

กฏของ Elliott Wave การนับคลื่น คลื่นจะประกอบด้วย Impulsive และ Correction

เทรดคริปโตด้วย Elliott Wave แม่นแค่ไหน ทำไมเราต้องหาเหรียญที่กำลังไป คลื่นที่ 3

ผมจะขอยกตัวอย่างจากพี่ใหญ่อย่าง BTC หรือ บิดคอยน์ ตามกราฟในคลิปนะครับ

การเข้าคลื่น 3 เราจะเข้าได้ยาวมาก ตามคลิป จิตวิทยาของนักลงทุน ถ้าเราเข้าถูก เราจะได้กำไรเยอะมาก

หรือ ยกตัวอย่าง เหรียญ IOTX จากคลื่นที่ 2 ไป คลื่นที่ 3 ต่ำๆ ก็บวก 400% เลยนะครับ

ในตลาดคริปโต ถ้าเราหาจุดเข้าใน Wave 2 ไป Wave 3 ได้ดีเนี่ย เราจะทำกำไรในตลาดนี้ได้เยอะมาก

สอนเทรดคริปโต ด้วยเทคนิค Elliott Wave ในฉบับของ โค้ชมิกซ์

เทคนิค Elliott Wave มักถูกใช้ในการเทรดคริปโต หรือ แม้กระทั่งตลาดอื่นๆ

ซึ่งวันนี้ผมจะมาบอกเทคนิคที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตามสไตล์ Mixer หลังจากทุกคนได้อ่านบทความนี้ รับรองว่าทุกคนสามารถจะสามารถทำตามได้ ผมทำได้ ทุกคนก็ทำได้

ย้ำอีกครั้ง โครงสร้างของ Elliott Wave จะมีโครงสร้าง ดังนี้

  1. คลื่นยืด (Impulse) จะประกอบไปด้วย คลื่นที่ 1, 2, 3, 4 และ 5
  2. คลื่นพักตัว (Correction) จะประกอบไปด้วยคลื่น a b และ c

โดย 1 วัฎจักรของคลื่น จะประกอบด้วยทั้งหมด 1, 2, 3, 4, 5 และ a, b, c หากเกิดคลื่นครบทั้งหมดนี้เราจะถือว่าจบรอบ จะเรียกว่า Wave 1 ใหญ่ ซึ่งแสดงว่า ใน Wave 1 ย่อย ก็จะประกอบไปด้วย Wave 1, 2, 3, 4, 5 และ a, b, c เหมือนกัน

และลึกลงไปกว่านั้น ใน Wave 1 ของ Wave 1 ย่อย ก็จะประกอบไปด้วย Wave 1, 2, 3, 4, 5 และ a, b ,c อีกเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่า “เราจะเข้าไปดูใน TimeFrame ไหนเป็นหลัก”

ถ้าเราดูใน TF H1 ก็จะเป็น Wave ของ TF 1H ถ้าเราเปิดดู TF H4 Day Month Week มันก็จะเป็นของ TF นั้น ๆ เพราะฉะนั้น เราจะดูจาก TF ใหญ่เป็นหลักก่อน เพื่อดู Wave ที่ใหญ่ที่สุด เราจะดูรู้ว่าตอนนี้ราคาพักตัวอยู่ที่คลื่นไหน และเราจะได้วางแผนในการเทรดของเราได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แล้วถ้าเราจะเข้าเทรด “ต้องเข้าเทรดที่จุด 0 เลยได้ไหม เข้าพร้อมนักลงทุนรายใหญ่เลยดีกว่าไหม” ส่วนตัวผมต้องบอกว่า “เป็นไปได้ยาก” ที่เราจะเข้าที่คลื่นเริ่มต้น เนื่องจาก เราอาจจะยังไม่ทราบปัจจัยพื้นฐาน ที่จุดนี้เป็นจุดที่เจ้าของเหรียญ หรือพวกที่เขาระดุมทุน เข้าซื้อกัน

ฉะนั้น ถ้าเราต้องการเข้าเทรดทำกำไร จุดที่น่าสนใจ คือ “Wave ที่ 2 และ 4” และอีกฝั่งหนึ่ง คือ “ฝั่ง Correction ขา C” ในช่วงที่ราคาพักตัว

แต่ทั้งนี้ในการเข้าเทรดเราก็จะต้องดู Demand/Supply Zone และ Price Action ประกอบด้วยนะครับ ซึ่ง Correction ในฝั่งการพักตัว จะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ สำหรับใครที่อยากรู้ต้องรอติดตามชมตอนต่อไปนะคร้าบ

ในครั้งหน้าผมจะมาพูดถึง Correction อีก 3 Correction ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้เข้าใจกันแบบง่ายที่สุด

ใครที่อยากไม่ได้ติดตามเพจ อย่าลืมกดติดตามด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด Elliott Wave ภาคต่อไป!

รวมคลิปสอนเทรดด้วย Elliott Wave ในตลาดคริปโต ฟรี!

อันนี้เป็นคลิปสอนที่ผมเอามาแบ่งปันให้ฟรีๆ เพื่อให้ได้ศึกษาการเทรด Crypto ด้วย Elliott Wave ได้เข้าใจมากขึ้น ทั้งเรื่องของจิตวิทยา การนับคลื่นอีเลียตเวฟ หรือ การเข้าเทรดจากกลยุทธ์นี้

X